ภูฎาน พาโร วังดี ทิมพู ปูนาคา 5 วัน 4 คืน
สงวนสิทธิ์ ในการเปลี่ยนแปลงราคา เหตุมาจากอัตราแลกเปลี่ยน และ ราคาตั๋วเครื่องบิน หรือ ประกาศจากรัฐบาลประเทศภูฎาน
** ขอสงวนสิทธิ์ เดินทางไม่ถึง 15 ท่าน ไม่มี หัวหน้าทัวร์ จากเมืองไทย **
Day 1 กรุงเทพฯ–พาโร–ทิมพู (--/L/D)
04.30 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 5 เคาน์เตอร์ K สายการบินภูฏาน เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก
06.30 น. ออกเดินทางสู่ ประเทศภูฏาน โดยสายการบินภูฏานเที่ยวบินที่B3701
09.55 น. ถึง สนามบินพาโร เมืองพาโร (Paro)ที่ระดับความสูง2,200 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล หลังจากผ่านพิธีการเข้าประเทศ ที่ สนามบินพาโร (เวลาของประเทศภูฏาน ช้ากว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง) จากนั้นไกด์ท้องถิ่นมารับท่านที่สนามบินเมืองพาโรนำท่านเดินทางสู่เมืองทิมพู (Thimphu )เมืองหลวงของประเทศภูฏาน ระยะทาง 65 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 1.30 ช.ม. แวะชมวิวทิวทัศน์ที่ วัดตัมชู (Tamchoe Monastery)ซึ่งมีสะพานโซ่เหล็กเก่าแก่อยู่ด้านหน้าวัด จากนั้นนำท่านชม จุดชมวิวแม่น้ำวังชูซึ่งเป็นจุดรวมของแม่น้ำพาโรและแม่น้ำทิมพูที่ไหลมาบรรจบกัน ก่อนที่จะไหลลงสู่ประเทศอินเดียระหว่างทางท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์ของทะเลภูเขาถึงเมืองทิมพู ที่ระดับความสูง 2,400 เมตร นำท่านชมตัวเมืองทิมพู เมืองที่มีการผสมผสานอย่างลงตัวของประเพณีดั้งเดิมและความทันสมัย โดยเอกลักษณ์ที่โดดเด่น คือสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมการแต่งกาย ตลอดจนมิตรไมตรีจิตของผู้คน โดยชาวภูฏานส่วนใหญ่จะแต่งกายด้วยชุดประจำชาติ ผู้ชายจะแต่งชุดที่เรียกว่า โก (Kho)ส่วนผู้หญิงจะแต่งชุดที่เรียกว่า กีร่า (Kira)ให้ท่านพักผ่อน เที่ยวชมตัวเมืองทิมพูในยามเย็นกันตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารเมืองพาโร หลังอาหารนำท่านเที่ยวชม เมมโมเรียลโชเตน (Memorial Chorten)เป็นมหาสถูปที่สร้างขึ้นในปี 1974 ตามแนวพระราชดำริของพระเจ้าจิกมี ดอร์จิ วังชุก กษัตริย์องค์ที่ 3 แห่งราชวงค์วังชุก ซึ่งเสด็จสวรรคตในปี 1972 เพื่อสันติสุขและความรุ่งเรืองของโลก จากนั้นนำท่านไปชมวัดชันกังคา (Changangkha Temple)วัดนี้เป็นวัดที่เก่าแก่ซึ่งถูกสร้างใน ค.ศ.ที่ 14วัดที่ศักดิ์สิทธิ์และชาวภูฏานนิยมมาของไหว้พระขอพรและให้พระตั้งชื่อให้ลูกของตัวเอง ที่วัดนี้ท่านสามารถให้พระตั้งชื่อเป็นแบบชาวภูฏานได้ รอบๆบริเวณวัดท่านยังสามารถชมวิวทิวทัศน์ของเมืองทิมพู จากนั้นนำท่านชม สถานอนุรักษ์สัตว์ประจำชาติของภูฏาน ที่เรียกว่า ทาคิน (Takin)ซึ่งปัจจุบันหาดูได้ยากมาก และชม จุดชมวิวซังเกกัง (Sangaygang)จุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของหุบเขา เมืองทิมพู เพื่อเก็บภาพประทับใจ และนำท่านชมความสวยงามของ วัดนันนารี ซึ่งเป็นวัดที่สร้างอยู่บนเนินเขา ใกล้ๆกับจุดชมวิวซังเกกังนำท่านชม ทาชิโชซอง (TashichhoDzong)ซึ่งสร้างขึ้นใหม่ในปี 1962 ปัจจุบันป้อมปราการแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่ทำงานของกษัตริย์ สถานที่ทำการของกระทรวงต่างๆ และวัด รวมทั้งเป็นพระราชวังฤดูร้อนของพระสังฆราช นอกจากนี้กษัตริย์จิกมีทรงพำนักภายในบริเวณป้อมปราการนี้ด้วย หากมีเวลาเหลือนำท่านชมกีฬายิงธนู ซึ่งชาวภูฏานจะมาเล่นกันทุกวันที่สนามยิงธนู
เย็น บริการอาหารเย็นที่โรงแรมHotel Phuntshopelriหรือระดับเทียบเท่า หลังอาหารพักผ่อนตามอัธยาศัย
Day 2 ทิมพู – ปูนาคา (B/L/D)
เช้า บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านชม โรงเรียนสอนงานศิลปะ (The School of Arts and Crafts or the Painting School)เป็นสถาบันงานศิลปะและงานช่างของภูฏาน 13 แขนง โดยใช้6 ปี ซึ่งท่านจะเห็นเด็กนักเรียนกำลังประดิษฐ์งานศิลปะแขนงต่างๆ เช่น การแกะสลักไม้ การปั้น พระพุทธรูปปูนปั้น และการวาดภาพพระบฏ จากนั้นนำท่าน ช้อปปิ้งของฝากจากเมืองทิมพู อาทิชุดประจำชาติภูฏานผ้าทอต่างๆ และของฝากประเภทงานไม้ หน้ากาก จากนั้นนำท่านชมที่ทำการไปรษณีย์ภูฏาน (Post Office)ซึ่งท่านสามารถเลือกซื้อดวงตราไปรษณียากรที่งดงามของภูฎานมีให้เลือกหลายรูปแบบและราคา ทั้ง รูปวิวทิวทัศน์ธรรมชาติ รูปวัดและป้อมปราการที่เรียกว่าซอง (Dzong)รูปสัตว์ รูปดอกไม้ต่างๆ รวมทั้ง ยังมีสแตมป์ 3 มิติอีกด้วย และที่ไปรษณีย์ภูฏานท่านสามารถถ่ายรูปตัวเองเป็นตราไปรษณีย์ส่งกลับมาประเทศไทยได้ด้วย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ปูนาคา(ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง) เมืองปูนาคา(Punakha) ระยะทางประมาณ 75 กิโลเมตร แวะชม จุดชมวิวที่สูงที่สุด ระหว่างการเดินทาง โดจูล่า (DochuLa)ที่ระดับความสูง 3,150 เมตร ให้ท่านชม สถูป 108 องค์ที่ถูกโดยราชินีองค์ที่ 1ในพระเจ้าจิกมี่ซิงเก วังชุก กษัตริย์องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์วังชุก เพื่อเป็นการขอบคุณพระสวามีและบุตรชายในการชนะสงครามและเดินทางกลับมาอย่างปลอดภัย และสถานที่นี้ในวันที่อากาศแจ่มใสท่านสามารถมองเห็นวิวของเทือกเขาหิมาลัยที่งดงาม รวมถึงยอดเขา กังก้า พุนซุม (GangkharPhuensum)ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก (ที่ยังไม่มีผู้ใดสามารถปีนขึ้นไปได้) ซึ่งสูงถึง 7,500 เมตร ระหว่างทาง ท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์ของทุ่งนาขั้นบันไดและดอกไม้ที่บานตลอดเส้นทาง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร หลังอาหารนำท่านชม ปูนาคาซอง (PunakhaDzong) ป้อมปราการประจำเมืองปูนาคา ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1637 โดยฉับดรุง งาวังนัมเกล โดยตั้งอยู่ระหว่าง แม่น้ำโพ (แม่น้ำพ่อ) และ แม่น้ำโม (แม่น้ำแม่) ปัจจุบันเป็นพระราชวังฤดูหนาวของพระสังฆราช ป้อมปราการแห่งนี้ถูกภัยธรรมชาติทำลายหลายครั้ง คือมีไฟไหม้และน้ำท่วม แต่ได้รับการบูรณะ อย่างต่อเนื่อง
เย็น บริการอาหารเย็นที่โรงแรม หลังอาหารพักผ่อนตามอัธยาศัย ที่โรงแรมPunatsangchu Cottage หรือเทียบเท่า
Day 3 ปูนาคา– พาโร (B/L/D)
เช้า บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหาร นำท่านชม วังดีโพดรัง ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนสันเขาสูงซึ่งถูกสร้างขึ้นในไป 1638 โดย Zhabdrungสมควรแก่เวลาเดินทางต่อกลับมายังเมืองพาโร ระยะทาง125 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ที่เมืองพาโร หลังอาหารนำท่านชม ชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ(National Museum of Bhutan)ซึ่งในอดีตเคยเป็นหอสังเกตการณ์ หรือ ตาซอง (Ta Dzong)ให้แก่พาโรริงปุง ซอง แต่ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ. 1968 มีทั้งหมด 6 ชั้น พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่เก็บรวมรวม ภาพพระบฏ อาวุธ เหรียญกษาปณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ไม้สอย สัตว์ป่าแถบเทือกเขาหิมาลัยตลอดจน ดวงตราไปรษณีย์ที่สวยงามมากมายหลายรูปแบบ จากนั้นนำท่านชม พาโรริงปุงซอง(ParoRinpungDzong)สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1646 โดยฉับดรุง งาวัง นัมเกล ถูกสร้างบนพื้นที่ ที่เด่นตระหง่านอยู่ในหุบเขาพาโร ทางเข้าตัวซองจะมีสะพานไม้ที่สวยงามพาดผ่านแม่น้ำเพื่อเข้าสู่ตัวซอง ปัจจุบันพาโรซอง เป็นทั้งสถานที่สำหรับส่วนบริหารเมืองพาโร และส่วนที่เป็นวัด ซึ่งมีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ประมาณ 200 รูป และยังเป็นสถานที่หนึ่งที่เคยใช้ถ่ายทำภาพยนต์ เรื่อง The Little Buddha
เย็น บริการอาหารเย็นที่โรงแรม Hotel Olathangหรือเทียบเท่า หลังอาหารพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
Day 4 พาโร – วัดทักซัง (B/L/D)
เช้า บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านออกเดินทางขึ้นเขาพิชิตวัดทักซัง เป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์และมีชื่อเสียงมากที่สุดในบรรดาวัดวาอารามของพุทธศาสนาในภูฏาน วัดอยู่บนหน้าผาหินสูง 900 เมตร คำแปลชื่อวัดนี้ แปลว่า Tiger’s Nestกล่าวกันว่าท่านกูรู หรือ พระอาจารย์ของวัดนี้ต้องขี่หลังนางเสือเพื่อขึ้นไปที่วัด จากนั้นท่านก็จะจำพรรษาอยู่ในถ้ำของวัดครั้งละ 3 เดือนวัดเคยถูกไฟไหม้เมื่อปี ค.ศ. 1951 และได้รับการซ่อมแซมจนสภาพดีดังเดิม แต่วัดก็เกิดไฟไหม้อีกครั้งเมื่อปี ค.ศ. 1998 คราวนี้ไฟเผาผลาญสิ่งก่อสร้างหลักและเครื่องตกแต่งภายในวัดไปจนหมด แต่รัฐบาลก็ได้ทำการซ่อมแซมบูรณะวัดขึ้นใหม่เมื่อปี ค.ศ. 2000 พร้อมกับจำลองสิ่งของเครื่องใช้ไม้สอยในวัดให้เหมือนเดิม จนสภาพวัดกลับมาดีดังเดิม ท่านซับดรุง งาวัง นัมเยล เคยมาเยี่ยมวัดนี้ในช่วงศตวรรษที่ 16 วัดนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวภูฏานเคารพนับถือมาก นักแสวงบุญจากทั่วประเทศจะเดินทางเพื่อมาสวดมนต์ภาวนาที่วัดนี้ตลอดเวลาตามปกติวัดจะไม่เปิดให้คนทั่วไปเข้าชมยกเว้นนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาไหว้พระและชมวัดนี้จะต้องขออนุญาตจากทางการเป็นพิเศษอย่างไรก็ดี การเดินขึ้นมาที่วัดบนหน้าผา เป็นประสบการณ์ที่มีค่าของนักเดินทางทุกคนใช้เวลาเดินทางไปกลับประมาณ 4-5 ชั่วโมง สำหรับคนไทย โดยท่านสามารถเลือกขี่ม้าได้ 1 ขาซึ่งประหยัดเวลาไปได้เยอะ ค่าม้าประมาณ 500 งูลดรัม และ ขาลงต้องเดินลงซึ่งวัดนี้นับว่าคุ้มค่ากับการเดินทางมากที่สุดค่ะเพราะมีความศักดิ์สิทธิ์ (ควรเตรียมรองเท้าสำหรับเดิน Hiking พิชิตวัดทักซังให้พร้อม)
เที่ยง บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคารหลังอาหารนำท่านเดินทางกลับเมืองพาโรโดยการเดินลง
จากนั้นท่านชมวัดคิชูลาคัง(KichuLhakhang)ตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายของเส้นทางไปวัดตั๊กซังและดรุ๊กเกลซอง เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของภูฏาน เป็นโบสถ์โบราณซึ่งพระเจ้าซังเซน กัมโป กษัตริย์ทิเบตทรงสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 1212 เป็นโบสถ์หนึ่งในโครงการสร้างโบสถ์ 108 แห่งภายในหนึ่งวัน ตามที่ทรงตั้งพระปณิธานเอาไว้วัดคิชู ประกอบด้วยโบสถ์ 2 หลัง ซึ่งหลังเก่าได้สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าซองเซนกัมโป และได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 ส่วนหลังใหม่เป็นของพระราชชนนีในกษัตริย์องค์ปัจจุบัน ทรงโปรดให้สร้างในปี ค.ศ. 1968 เพื่อเสด็จมานั่งวิปัสสนา
เย็น บริการอาหารเย็นที่โรงแรม Hotel Olathangหรือเทียบเท่า
จากนั้นนำท่านชมการแสดงท้องถิ่นของชาวภูฏาน แสดงวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาวภูฏานในเทศกาลงานประเพณีต่างๆและแต่งกายด้วยชุดประจำชาติ ผู้ชายจะแต่งชุดที่เรียกว่า โก (Kho)ส่วนผู้หญิงจะแต่งชุดที่เรียกว่ากีร่า (Kira)
Day 5 พาโร – กรุงเทพ (B/--/--)
07.00 น. บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินพาโร
10.45 น. ออกเดินทางกลับกรุงเทพ โดย สายการบินภูฏาน เที่ยวบินที่ B3700
16.15 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
**หมายเหตุ**
รายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสมโดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
อัตรานี้รวม
+ ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ ชั้นประหยัด
+ ค่าภาษีสนามบินทุกแห่ง
+ค่ารถนำเที่ยวภายใน ภูฎาน
+ไกด์ท้องถิ่นภาษาอังกฤษ
+ค่าโรงแรมที่พัก มาตรฐาน Tourist Class 2 ท่าน ต่อ 1 ห้อง
+ค่าวีซ่าภูฏาน
+ ค่าวีซ่าเพื่อเข้าประเทศ
+ ค่าบัตรเข้าชมสถานที่
+ค่าอาหารมาตรฐานตามรายการ
+ประกันการเดินทาง ในกรณีเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุ จะคุ้มครองเป็นจำนวนเงิน 1,000,000 บาท
(คุ้มครองผู้เอาประกันภัย อายุระหว่าง 15-75 ปี เท่านั้น ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัย อายุระหว่าง 15-75 ปี ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยอายุต่ำกว่า 15 ปี หรือ ระหว่าง 75-85 ปี คุ้มครอง 50% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์ / ส่วนในกรณี ผู้เอาประกันภัยที่อายุสูงกว่า 85 ปี ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคุ้มครอง)
อัตรานี้ไม่รวม
-ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆนอกเหนือจากรายการทัวร์
-ค่าน้ำหนักเกินกว่าสายการบินกำหนด 20 กก.
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุอยู่ในโปรแกรมทัวร์
-ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และ 3 %
- ค่าทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถภูฏานขั้นต่ำ 30 ดอลลาร์ต่อท่าน
- ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย
เอกสารที่ใช้ยื่นวีซ่า
- หนังสือเดินทางที่มีอายุใช้งานเหลือ มากกว่า 6 เดินทาง
- รูปถ่ายหน้าตรงใช้สำหรับยื่นวีซ่า 2 นิ้ว 1 ใบ (เป็น SCAN FILE เป็นแบบสีด้วยความละเอียดสูง หรือ ส่งรูปถ่ายจริงมาก็ได้ ทางบริษัทฯจะดำเนินการยื่นวีซ่าให้เอง)
- ในกรณีเป็นนักเรียน หรือ นักศึกษา รบกวน SCAN สี ด้วยความละเอียดสูง
- แจ้งรายละเอียดเพื่อกรอกฟอร์มวีซ่าดังนี้ : ที่อยู่ปัจจุบัน + ตำแหน่งงาน + ชื่อบริษัทฯหรือองค์กรที่ทำงาน + วุฒิการศึกษา
เงื่อนไขการจองทัวร์
1. หลังจากการจอง ต้องชำระ เงินมัดจำทันที ท่านละ 35,000 บาท / ท่าน เนื่องจาก ตั๋วเครื่องบิน จะต้องออกทันทีหลังจาก มีการยืนยันการจอง มิฉะนั้น ที่นั่งจากสายการบิน จะไม่ Confirm และ จะต้อง โอนเงิน ก่อนการเดินทาง อย่างน้อย 14 วันก่อนการเดินทาง
2. เงื่อนไขการยกเลิก: หลังจากชำระเงินมัดจำแล้ว ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงิน เนื่องจาก ทางบริษัทฯจะต้องออกตั๋วเครื่องบิน ให้ผู้โดยสารทันที เพื่อ การยืนยันการเดินทางกับทางสายการบิน
3. หลังจาก จ่ายเงิน เต็มจำนวนแล้ว ทางบริษัทฯ จะคิดค่าใช้จ่ายตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในขณะนั้น และจะทำการคืนเงินที่เหลือ หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วให้กับผู้เดินทาง
4. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้และจะไม่รับผิดชอบใดๆ ในกรณีที่สูญหาย สูญเสีย หรือได้รับ บาดเจ็บ ที่นอกเหนือความรับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์และเหตุสุดวิสัยบางประการ เช่น การนัดหยุดงาน หรือ ภัยธรรมชาติ หรือ จลาจล เป็นต้น
5. เนื่องจากรายการทัวร์นี้เป็นแบบเหมาจ่ายเบ็ดเสร็จ หากท่านสละสิทธิ์การใช้บริการใดๆตามรายการ หรือ ถูกปฎิเสธการเข้าประเทศไม่ว่า กรณีใดๆ ก็ตาม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ ไม่คืนเงินทุกกรณี
6. เมื่อท่านได้ชำระเงินมัดจำหรือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านตัวแทนของบริษัทฯ หรือ ชำระโดยตรงกับทางบริษัทณ ทางบริษัทฯ จะขอถือว่าท่านได้รับทราบและยอมรับเงื่อนไขต่างๆ ที่บริษัทฯได้ระบุไว้แล้วข้างต้น
7. กำหนดการเดินทางอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้เพื่อความเหมาะสม ทั้งนี้ทางบริษัทฯ จะยึดถือผลประโยชน์ตลอดจนความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลักสำคัญ
8. สำหรับ ผู้โดยสาร ที่ไม่ได้ถือ Passport ไทย หรือ Passport ต่างด้าว ผู้โดยสารต้องรับผิดชอบเรื่องเอกสาร Visa เข้าออกเมืองไทยเอง หรือ การแจ้งเข้าแจ้งออกประเทศไทยเอง ทางบริษัทฯทัวร์ จะไม่รับผิดชอบในกรณี ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทยปฏิเสธในการเข้าและออกจากประเทศ
ในกรณีที่ผู้โดยสาร มีไฟลท์เดินทางภายในประเทศหรือระหว่างประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับวันเดินทางที่ท่านได้ทำการจองไว้กับทางบริษัทฯ กรุณาแจ้งให้กับทางเจ้าหน้าที่ทราบ ก่อนการชำระเงินค่าตั๋วดังกล่าว ถ้าเกิดข้อผิดพลาด
ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการรับผิดชอบทุกกรณี
หนังสือเดินทางต้องมีอายุเหลือใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน
นับจากวันเดินทางและมีหน้า ที่เหลือ ไว้ประทับตราไม่น้อยกว่า 2 หน้า