เดิมที่ชื่อว่า เจียนเป้ว เป็นวัดประจำรัชกาลของเจ้าเมือง สิบสองปันนา ในสมัยนั้น แต่ในช่วงที่ประเทศจีนกำลังปฏิวัติวัฒนธรรมจึงทำให้วัดถูกทำลายไป ทางกรมศาสนาของรัฐบาลจีน เลยคิดที่จะสร้างขึ้นมาใหม่ และเริ่มต้นสร้างในปี ค.ศ. 2005 โดยสร้างจากที่เดิมของวัด ใช้เงินลงทุนอยู่ที่ 400 ล้านหยวน มีเนื้อที่ทั้งหมด 112 ไร่ เป้าหมายที่จะสร้าง เพื่อให้เป็นสถานที่เผยแพร่วัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนานิกายหินยาน หรือ เถรวาท วัดหลวงไทลื้อ มีพระและสามเนร จำวัดอยู่ 100 รูปโดยประมาณ
สิ่งที่หลงเหลืออยู่ที่วัด คือ หินศักดิ์เพียงก้อนเดียว ทางกรมศาสนาคิดสร้างวัดด้วยโครงการ 3 โครงการ โครงการที่ 1 2 และ 3 ได้เอาความหมายทางพระพุทธศาสนามาสร้าง เช่น วิหาร ความยาวอยู่ที่ 35 เมตร กว้าง 29 เมตร กว้าง 29 เมตร หมายถึง พระพุทธเจ้าออกบวช ความยาว 35 เมตร หมายถึง การตรัสรู้ รูปพระยืนปรางค์ประทานพร หรือปรางค์ขอฝน ความสูงอยู่ที่ 45 เมตร หมายถึง การประกาศศาสนา 45 พรรษา โครงการที่ 3 สร้างแล้วแต่ยังไม่เสร็จสมบูณร์ คือ เจดีย์ จะสร้างให้มีความสูงถึง 80 เมตร หมายถึง 80 ปรินิพานนั่นเอง
Luang Muang Lue Temple
Formerly known as Jianpiao is the temple of the reign of the Xishuangbanna governor in those days, but during the revolution in China, the temple was destroyed. The Chinese government's religious department. I thought to create a new one. And started building in 2005, built from the original temple. The investment is CNY 400 million with a total area of 112 acres. To be a place to publish Buddhist culture, Hinayana or Theravada Buddhist temples. There are about 100 monks and novices estimated.
Remains in the temple is a single stone. The Ministry of Religious Affairs is building a temple with 3 projects. Projects 1, 2 and 3 have the meaning of Buddhism. For example, the temple is 35 meters long and 29 meters wide and 29 meters wide meaning the Buddha is ordained length of 35 meters, meaning Enlightenment. The statue of prang for rain. The height is 45 meters means to declare religion 45th birthday. Project 3 was built but unfinished. The bun is a pagoda built to a height of 80 meters, meaning 80 partitions.
เกร็ดความรู้
การขยายตัวของมูลค่าทางเศรษฐกิจ
มาจากปัจจัยด้านการคมนาคมประการหนึ่ง กล่าวคือ มณฑล เหอหนานเป็นจุดศูนย์กลางคมนาคมทั่วจีน เนื่องจากมีการคมนาคมที่สะดวกมาก ทั้งซุปเปอร์ไฮเวย์ 4 พันกว่ากิโลเมตร ทางรถไฟ 3พันกว่ากิโลเมตร และปลายปี 2552 นี้จะมีเส้นทางรถไฟ เจิ้งโจว-ซีอาน ซึ่งใช้ระยะเวลา 2 ชั่วโมง โดยรถไฟความเร็วสูงกว่า330 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อีกทั้งสำหรับเมืองเจิ้งโจวที่เป็นเมืองหลวงของมณฑล ในอนาคตอันใกล้นี้จะมีการรวมกับเมืองไคเฟิง ซึ่งจะมีประชากรมากขึ้นมากด้วย นอกจากนี้ ยังมีการสร้างเส้นทางด่วนสายหลักเชื่อมระหว่างกรุงปักกิ่งและมณฑลกวางตุ้งโดยผ่านทางมณฑลเหอหนาน ดังนั้นจะเป็นโอกาสของมณฑลเหอหนานในการขยายตลาดผู้บริโภคและอุตสาหกรรมไปยังมณฑลใกล้เคียงด้วย